“คราฟต์… เป็นงานศิลป์แขนงหนึ่งที่ช่วยเติมเต็มผลงานให้มีมูลค่าและความตั้งใจ”
“ทุกการออกแบบและสร้างสรรค์… ล้วนมีเรื่องเล่าและความหมายอันทรงคุณค่า”
“เฟอร์นิเจอร์จาก everyday studio… ล้วนคำนึงถึงการใช้งานจริงจากผู้บริโภค”
ปัจจุบันตลาดเฟอร์นิเจอร์ไทย มีฐานกำลังอันแข็งแกร่งและกลุ่มธุรกิจเติบโตสูง จะเห็นได้จาก Start up ขนาดเล็กหรือบริษัทเอกชนต่างชาติ ต่างพากันร่วมลงทุนและสร้างคอลเลคชันใหม่ๆ สม่ำเสมอตลอดทุกไตรมาสหรือครึ่งปี ทั้งนี้ ด้วยกำลังการซื้อจากผู้บริโภค กลับไม่ได้ถูกลดแต่อย่างใดนัก หากแต่ส่งผลในทิศทางตรงกันข้าม นั่นเพราะด้วยความนิยมในการตกแต่งบ้านของคนรุ่นใหม่และการขยับขยายตัวของอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมในเมืองหลวงและรอบเขตปริมณฑล
ตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา everyday studio เป็นหนึ่งในแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่วางตำแหน่งของตน ในกลุ่มตลาด B-Segment โดยก่อตั้งจาก 2 ดีไซน์เนอร์ไทย ที่จบการศึกษาด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมภายใน และศึกษาต่อการออกแบบเฟอร์นิเจอร์และสถาปัตยกรรมภายในที่สหรัฐอเมริกา ได้แก่ วุฒิชัย ลีลาวรวงศ์ (เอ็กซ์) และสิริพร กอบนิธิกุลวงศ์ (เปิ้ล) โดยสร้างสรรค์ผลงานภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ว่า Our design makes your everyday special คือการออกแบบที่จะทำให้ทุกวันเป็นวันพิเศษ จึงทำให้ผลงานแทบทุกชิ้นได้รับความนิยมและเสียงตอบรับเป็นอย่างดี และในโอกาสนี้ ทางเว็บไซต์ Craft ‘N’ Roll ก็จะขอพาทุกท่าน ไปทำความรู้จักกับ everyday studio กัน ว่าแบรนด์ที่มีเฟอร์นิเจอร์สุดเก๋ผสมความมินิมอลนี้ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร
[START UP FOR DREAM]
เอ็กซ์: จุดเริ่มต้น คงต้องย้อนไปเมื่อปี 2014 ครับ แต่เดิมก่อนจะมาเป็น everyday ผมได้สร้างผลงานภายใต้แบรนด์ที่ชื่อว่า Xinfur ซึ่งย่อมาจาก X (Name) + In (Interior) + Fur (Furniture) ซึ่งพอทำแล้วก็ส่งประกวดตามงานและได้รับการคัดเลือกมาโดยตลอด แต่เมื่อถึงจุดๆ หนึ่ง ผมก็มานั่งคิดว่าสิ่งที่เรากำลังทำกำลังสร้างอยู่นั้น มันช่วยให้อะไรกับผู้ใช้งานจริงบ้าง นอกจากความแปลก ความสวย และคำชมเชยกลับมา หลังจากนั้นไม่นาน ผมได้ทำการปรึกษากับเปิ้ลในการรีแบรนด์ใหม่ทั้งหมดให้ดูมีความเป็นสากล และออกแบบเพื่อผู้ใช้งาน ให้เกิดการใช้งานจริงๆ ไม่ใช่แค่งานที่ได้รับรางวัลและโชว์ได้เท่านั้น โดยผลงานของ everyday จะเน้นถึงหลักการใช้งานเพื่อตอบโจทย์ของผู้ใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ คือเป็น Design based on customers
ในช่วงแรกของการรีแบรนด์ เรายังไม่มีโชว์รูมจัดแสดงสินค้าเช่นทุกวันนี้ เราใช้วิธีฝากขายตามสถานที่ต่างๆ และพยายามออกงานแฟร์ เช่น บ้านและสวน เนื่องจากเราไม่ได้มีเงินก้อนใหญ่มาลงทุนนัก จึงใช้วิธีค่อยเป็นค่อยไป ทำทีละนิด อย่างไปออกงานบ้านและสวนแฟร์ช่วงแรก เราเช่าเพียงพื้นที่เล็กๆ ประมาณ 2×1.5 เมตร เท่านั้น เอาไว้สำหรับตั้งโชว์โต๊ะ เก้าอี้ และชั้นวางของเพียงน้อยนิด
[SIMPLE FOR LIFE]
เอ็กซ์: ช่วงก่อนจะมาเป็น everyday ผมพยายามออกแบบผลงานให้ดูตื่นตาและแปลกใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการทดลองนำพรมสำนักงานมาตัดทำเป็นที่นั่ง หรือพยายามเอาวัสดุแปลกๆ มาใช้ แต่พอมาเป็น everyday ผมอยากทำการออกแบบสินค้าให้สามารถตอบโจทย์ต่อคนหมู่มากได้ คือไหนๆ เราก็ออกแบบทั้งที ทำไมเราไม่ทำอะไรที่มันใช้แล้วได้ประโยชน์จริง หรือเป็นสินค้าที่เป็นโซลูชันช่วยแก้ปัญหาได้
ด้วยเหตุนี้ สินค้าจาก everyday จึงมีลักษณะที่ดูเรียบง่ายไม่ตามกระแส แต่แฝงด้วยดีไซน์และลูกเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งผมกับเปิ้ล พยายามจะตัดทอนสิ่งไม่จำเป็นออกไปให้มากที่สุด โดยให้เหลือแต่ส่วนที่สำคัญ เช่น โครงสร้างและพื้นผิว อีกทั้ง เราพยายามที่จะตีโจทย์ด้วยการเสริมฟังก์ชันต่างๆ ลงไป ซึ่งสิ่งนี้แหละ จะทำให้เป็นจุดขายที่หาซื้อไม่ได้ตามท้องตลาด
[COMBINATION]
เอ็กซ์: สิ่งหนึ่งที่ช่วยให้ everyday เป็นอย่างทุกวันนี้ได้ นั่นเพราะการเติมเต็มซึ่งกันและกัน ระหว่างผมกับเปิ้ล ทางผมจะมีความเชี่ยวชาญและให้ความสำคัญกับการออกแบบโครงสร้าง การคัดเลือกวัสดุ ส่วนเปิ้ลจะคำนึงถึงลักษณะการใช้งาน หน้าตา สีสัน คือเปิ้ลพยายามที่จะมองทั้ง 2 ฝั่งให้บาลานซ์กัน ทั้งฝั่งนักออกแบบและผู้ใช้งานจริง จึงทำให้เราสองคนเติมเต็มกันเป็นอย่างดี
[CRAFT FOR FILL]
เอ็กซ์: สำหรับงานคราฟต์ ผมมองว่ามันเป็นสิ่งที่ดีมีมูลค่านะ คือมันเป็นสิ่งที่อุตสาหกรรมโรงงานให้ไม่ได้ การจะสร้างผลงานออกมาสักชิ้นหนึ่งที่เป็นของทำมือ ต้องใช้แรง ใช้ความสามารถ ใช้ความพยายาม และความละเอียดอ่อน ซึ่งสิ่งนี้แหละที่เป็นจุดเด่นที่สุดของงานคราฟต์ที่ลอกเลียนไม่ได้ และ everyday เอง ก็ได้ทดลองนำมาใช้ในสินค้าแล้ว เช่น การสาน การถักเป็นแพทเทิร์น และในอนาคตอันใกล้ เราก็กำลังจะเปิดตัวคอลเลคชันใหม่ที่เกี่ยวกับการคราฟต์ แต่จะเป็นอะไรนั้น ตอนนี้ขออุบไว้ก่อน
[DIFFERENT DESIGN]
เอ็กซ์: ปัจจุบัน เราพยายามที่จะสร้างสรรค์คอลเลกชันใหม่ที่แตกต่างกันอยู่ตลอดเวลา ทั้งการออกแบบดัดแปลงโครงสร้างและการจับคู่วัสดุระหว่างเหล็กและไม้ โดยปี 2018 ที่ผ่านมา ก็มีผลงานที่ได้รับความสนใจ เช่น…
Bangkok Taxi: คอลเลคชันเก้าอี้สตูลใหม่ล่าสุด ที่นำไปจัดแสดงในงาน Bangkok Design Week 2018 โดยใช้คอนเซ็ปต์การตีโจทย์จากกรุงเทพฯ ว่าหากนึกถึงกรุงเทพฯ คุณนึกถึงสิ่งใดเป็นอันดับแรก? ซึ่ง everyday ได้นึกถึงสีสันของแท็กซี่ที่ฉูดฉาดตาวิ่งตามท้องถนนเมืองกรุง ไม่ว่าจะเป็นสีเขียวเหลือง สีฟ้าแดง ผมได้ไปทำการถ่ายภาพและศึกษาแท็กซี่ว่ามีการจับคู่สีแบบใดบ้าง และลองปรับสีให้ดูซอฟท์ลง และนอกจากสีสันที่จับคู่กันแล้ว เก้าอี้สตูลตัวนี้ ยังมีความพิเศษอยู่ที่สามารถถอด ต่อ ประกอบได้ สามารถถอดชั้น เพื่อแบ่งให้เพื่อนนั่ง หรือต่อซ้อนกัน โดยมีข้อต่อรับน้ำหนักสร้างความแข็งแรง และที่ชั้นบนสุดยังสามารถต่อชั้นวางไม้ สำหรับจัดวางสิ่งของให้ดูสวยงาม
Swingy: เก้าอี้โยก หนึ่งในคอลเลคชัน Play it ซึ่งเคยได้รับรางวัล Design Excellent Award (DEmark) และ Good Design Award (Gmark) มีคุณสมบัติพิเศษคือ เป็นเก้าอี้ทรงสูงที่สร้างจากเหล็กและไม้ ที่บริเวณฐานวางเท้าด้านล่างสามารถโยกแกว่งเล่นไปมาได้ เมื่อยามเมื่อย มี 2 สีให้เลือก สีดำ สีขาว
Fillie Bench: ม้านั่งยาวที่ถูกดีไซน์โดยจับคู่กันระหว่างท่อเหล็กและไม้โอ๊ค ในแต่ละปลายของท่อเหล็กจะถูกปิดหัวด้วยชิ้นไม้โอ๊ค เพื่อสร้างความสวยงามและเพื่อปิดเหลี่ยมมุม เป็นอีกหนึ่งคอลเลคชันที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักออกแบบตกแต่งและผู้ใช้งานทั่วไป
Basic Dining Table: คอลเลคชันที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากลูกค้าผู้สูงอายุที่กำลังเดินหาโต๊ะกินข้าวที่มีฟังก์ชันวางเท้าได้ โดยแมททีเรียลหลักผลิตจากไม้โอ๊คทั้งตัว พร้อมเสริมช่วงล่างด้วยที่วางเท้าขนาดกว้างที่มีสโลปเอียงรับเท้า เพื่อความสะดวกสบาย
[FUTURE]
เอ็กซ์: สำหรับอนาคต everyday ก็จะพยายามเติมเต็มเฟอร์นิเจอร์เกี่ยวกับบ้านให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น เช่น คอลเลคชันของห้องนอน ตู้ โต๊ะ เตียง และอีกประเภทที่เรามองไว้ก็จะเป็นเฟอร์นิเจอร์เกี่ยวกับพวกโปรเจ็กต์โครงการใหญ่ โดยใช้การออกแบบที่คำนึงถึงพื้นที่สเปซอันจำกัดให้มากขึ้น เป็นต้น ทั้งนี้ ก็เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของผู้อยู่อาศัยจริง และต้องสวยสามารถใช้งานได้ยาวนาน
หากสนใจสินค้าจากทาง everyday studio สามารถติดต่อได้ตามที่อยู่ดังนี้
Address: 271/55-56 ถ.สาธุประดิษฐ์ 21 ช่องนนทรี ยานนาวา กรุงเทพฯ
E Mail: [email protected]
Facebook: everydaystudio.furniture
Tel. 02-064-5157
