ถ้าพูดถึง “YOUNGFOLKS” หลายคนที่ฟังเพลงอินดี้ก็คงจะนึกถึงเพลงของ “peter bjorn and john” มาก่อนเป็นสิ่งแรกแต่ จริงๆ แล้วที่เรากำลังจะพูดถึงนั้น คือแบรนด์ “รองเท้า” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความหมายของชื่อเพลงบวกกับการต่อยอดกิจการทำรองเท้าของตระกูลที่เก่าแก่มากว่า 3 ช่วงอายุคน
“บุณยนุช วิทยสัมฤทธิ์” หรือ “เก๋” ทายาทรุ่นที่ 3 ผู้กลับมาพลิกฟื้นธุรกิจของตระกูลให้เป็นที่รู้จักอีกครั้ง การ Rebrand ครั้งยิ่งใหญ่ของครอบครัว ในนามของ “YOUNGFOLKS”
เริ่มใหม่จากเก่า ส่งต่อความเก๋าจากรุ่นก๋ง
กว่า 70 ปีแล้วที่ครอบครัววิทยสัมฤทธิ์ ยืนหยัดบนเส้นทางของตระกูลช่างทำรองเท้าในฉบับของ Handcraft ที่แท้จริง
คุณเก๋เล่าว่า “ครอบครัวเราเริ่มต้นมาจากศูนย์ คือ set zero ทำมือทุกขั้นตอนอาจารย์ช่าง 1 คน ทำได้แค่วันละคู่เท่านั้น”
“จุดเริ่มต้นที่กลับมาทำรองเท้ามาจากการที่เห็นคุณพ่อทำมาตั้งแต่เด็ก เมื่อคุณพ่อป่วยหนัก เลยทำให้อยากสานต่อธุรกิจของครอบครัวเพื่อต่อยอดสิ่งที่คุณพ่อทำให้เราอยู่สบายอย่างทุกวันนี้ อยากทำในวันที่คุณพ่อยังอยู่และได้เห็นมันเจริญเติบโตอีกครั้ง” คุณเก๋เล่า
“สิ่งที่ชัดเจนขึ้นจากการส่งต่อกิจการรองเท้าของพ่อก็คือ นอกจากขั้นตอนการอบหนังที่ต้องใช้เครื่องจักรช่วยเพื่อความรวดเร็ว YOUNGFOLKS ก็จะใช้วิธีการทำแบบสองมือประกอบให้เป็นคู่แบบนี้มาตลอดตั้งแต่รุ่นอากง ซึ่งทำให้ YOUNGFOLKS เป็นรองเท้า Handcraft ที่ custom เพื่อเจ้าของคนเดียวเท่านั้น ทุกคู่เป็นแบบฉบับเฉพาะของเรา
สร้างความต่างให้เป็นเอกลักษณ์
“ปกติแบบรองเท้าที่ครอบครัวเราขายกันก่อนหน้านี้จะเป็นโมโนโทน สีพื้นธรรมดา เมื่อถึงที่ของ YOUNGFOLKS เราอยากสร้างความต่างให้เป็นเอกลักษณ์ เราเลยเลือกเปิดตัว Brand ด้วยรองเท้ารุ่น ORCA ซึ่งเป็นรองเท้าหนังสีขาวกับดำให้คนที่ซื้อไปใช้ได้สนุกกับการ mix & match ได้มากขึ้น
“แต่จริงๆ แล้วตอนนี้รองเท้ารุ่นที่เป็นตัวท็อปของ YOUNGFOLKS จะเป็นรุ่น SUGAR ซึ่งเป็นรองเท้าที่ปัดสีโดยอาจารย์ช่าง แน่นอนว่าการปัดสีจะไม่เหมือนกัน แล้วแต่อาจารย์ช่างว่าจะปัดสีเป็นแบบไหน และนั่นทำให้ลูกค้าที่ได้รับรองเท้าไป เหมือนได้รับผลงานศิลปะชิ้นหนึ่งจากอาจารย์ช่าง ซึ่งเป็นผลงาน masterpiece ของแต่ละท่านไป” คุณเก๋เล่า
เล่า “Brand” ผ่านคนในครอบครัว
เราไม่ได้เกิดมาเป็นนักมาเก็ตติ้ง คุณเก๋บอกว่า Story Telling ของเราค่อนข้างหนัก เพราะเชื่อว่าคนสมัยนี้จะอ่านและศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจจะผูกมิตรกับแบรนด์ เราจึงใช้ Story Telling ในความเป็นแบรนด์ของเรา ความเป็นครอบครัว ไม่ประดิษฐ์ ขายอะไรที่เราถนัด เพราะเราไม่ได้เกิดมาเป็นนักมาเก็ตติ้ง เราเน้นจริงใจ ให้พ่อมีพี่น้องเป็นนายแบบ เพราะฉะนั้น จุดเด่นของเราคือการนำเสนอในรูปแบบของครอบครัว
“รู้สึกดีที่เวลาเราโพสต์อะไรเกี่ยวกับครอบครัวของเรา ก็จะมีคนแท็กหาคนที่รักให้มาดู มาอ่าน หรือบางคนก็แชร์ content ของเราไปเพื่อให้คนอื่นได้อ่านด้วย”
คุณเก๋ยังบอกอีกว่า “เวลามี pop up ที่เราไปขายของ ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาก็จะเป็นลูกค้าที่มาเป็นครอบครัว ก็จะโดนแซวบ่อยๆ ว่า แม่ค้าก็เยอะแล้วเพราะมาทั้งครอบครัว ลูกค้าก็เยอะด้วย (คุณเก๋หัวเราะ) การที่มีคนมามุงหน้าร้านเยอะๆ ก็จะทำให้มีคนสนใจเยอะแบบ “เอ้ะ! ทำไมบูทนี้คนเยอะจัง” คนก็จะเข้ามามุงกัน เราก็จะได้ลูกค้าจากตรงนี้ด้วย นั่นจึงทำให้เราไม่ต้องโปรโมทอะไรมาก”
เติบโตไปด้วยกันแบบอบอุ่น
“เร็วๆ นี้เราจะขยายไลน์สินค้าให้เพิ่มขึ้น เพราะลูกค้าเราจะชอบมาถามหารองเท้าส้นสูง รองเท้าเด็ก หรือเป็นรองเท้าแตะ เราก็คิดว่าเราจะทำสินค้าให้ตรงกับที่ลูกค้าต้องการมากขึ้น”
“แล้วเราก็คิดว่า เราอยากจะให้ครอบครัวมาทำกิจกรรมร่วมกัน เราเลยจะทำ Flagship โดยรวม YOUNGFOLKS กับ 31 Thanwa เข้าด้วยกัน เพื่อให้ร้านเป็น community ขนาดย่อม ไว้สำหรับคนรักเครื่องหนังให้ได้มาทำกิจกรรมร่วมกันกับครอบครัว หรือเพื่อน” คุณเก๋บอก
สรุป…สำหรับนักอ่านไม่เกิน 3 บรรทัด YOUNGFOLKS คือ แบรนด์รองเท้าคลื่นลูกใหม่ที่เกิดจากความเก่า ต่อยอดไปสู่ความเก๋า ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น อย่างมีประสิทธิภาพและความรัก เพียงใช้หัวใจนำทางแล้วพยายามคิดแบบ go beyond ก็จะเกิดความสำเร็จได้แบบไม่ซ้ำใคร … ลองถามใจดูสิ เราตื่นเต้นกับเรื่องอะไรบ้างหรือยัง
