Great Food Good Time @ Paring Dinner Night by Craft N Roll

เปิดลิสต์ 13 เมนูอาหารไทยฟิวชั่นสุดพิเศษที่หาทานกันได้เฉพาะในงาน Craft N Roll Paring Dinner Night เท่านั้น ที่เชฟได้ครีเอทขึ้นมาใหม่ทั้งหมดไว้ให้จับคู่กับเบียร์คราฟท์ไทย 9 แบรนด์ และ Bourbon ของ Woodford Reserve เห็นหน้าตาอาหารแล้วบอกเลยน่าทานมาก รสชาตินี่ก็จัดว่าเด็ดเลยทีเดียวล่ะ เอาเป็นว่ามาดูกันดีกว่าว่าแต่ละเมนูอาหารหน้าตาเป็นแบบไหน เผื่อจะได้เตรียมท้องไว้จัดหนักกันถูก

 DSCF2781 welcome_กุ้งเซวิเซ่ (2)

1.Welcome Drink : ประเดิมด้วยเมนูอาหารจานแรก “กุ้งเซวิเซ่” กุ้งที่ดองด้วยน้ำส้ม 24 ชม. การเซวิเซ่ เป็นการนำเอาอาหารทะเลมาหมักในน้ำส้มสายชูเพื่อทำให้อาหารสุก สำหรับเมนูนี้เรานำกุ้งที่หมักแล้วไปซูวีต่ออีกสองชั่วโมงเพื่อเพิ่มความนุ่มละมุนลิ้น แล้วโรยไข่กุ้งเพิ่มรสสัมผัสกรุบๆ ในปาก จัดวางในซอสซัลซ่ามะเขือเทศที่มีการเพิ่มรสกระเทียมและเครื่องเทศเข้าไปร่วมด้วย เสิร์ฟในแก้วพอดีคำ แนะนำซดทั้งแก้วเพื่อความเต็มปากเต็มคำแห่งสุนทรียทางรสชาติความสดชื่น

Appitizer_เมี่ยงปูนิ่ม1 Appitizer_ขนมปังหน้าชีส
Appitizer_เบคอนพันถั่วพู1 Appitizer_ยำสาหร่ายหน้าหมูย่าง2
Appitizer_สะเต๊ะแซลมอน (2)
2. Appetizer: มีเลือกชิมกันถึง 5 เมนูพิเศษ “เมี่ยงปูนิ่มทอดกรอบ” กับรสชาติและกลิ่นที่ครบเครื่องสมุนไทยแล้วเติมความครีเอทให้เมนูนี้ด้วยน้ำเมี่ยงกลิ่นราสเบอร์รี เมนูถัดมาคือ “ขนมปังหน้าชีสต้มยำหอยเชลล์”ขนมปังบรูสเกต้าที่ดัดแปลงมาใช้ครีมรสต้มยำ ท้อปปิ้งด้วยหอยเชลล์ มอสซาเรลล่าชีสแล้วนำไปอบ ให้รสชาติเปรี้ยวแบบต้มยำ ผสมความมันนิดๆ ของชีสและความกรุบกรอบของขนมปังที่เข้ากันขั้นสุด เมนูที่ 3 เป็น “เบคอนพันถั่วพูท้อปปิ้งพะแนงมาโย” ทีเด็ดอยู่ตรงซอสที่ใช้มายองเนสผสมกับพริกแกงพะแนงทานกับเบคอนพันถั่วพู รสชาติออกเปรี้ยวหวานและหอมกลิ่นพริกแกง จานที่ 4 เสิร์ฟด้วย “ยำสาหร่ายหน้าหมูย่างตะไคร้พริกไทยดำ” ที่นำเอาหมูไปซูวีนานถึง 2 ชั่วโมง (Sous Vide คือการปรุงอาหารภายใต้ภาวะสุญญากาศ โดยใช้อุณหภูมิสูงประมาณ 56-60 องศา เป็นเวลานานๆ หรือการตุ๋นอาหารในภาชนะสุญญากาศ ซึ่งการปรุงอาหารด้วยวิธีการนี้สามารถคงความสดของวัตถุดิบและรสชาติดั้งเดิมของเนื้อต่างๆไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ) จนได้เนื้อนุ่มกำลังดี ทานคู่กับยำสาหร่าย และเมนูสุดท้ายในเซตนี้ “สะเต๊ะแซลมอนซอสมะเขือเทศซัลซ่า” ใช้ปลาแซลมอนนำเข้าจากนอร์เวย์มาทำสะเต๊ะ หั่นเป็นชิ้นพอดีคำแล้วราดด้วยน้ำอาจาดที่ผสมแอปเปิ้ล ให้กลิ่นหอมและรสชาติที่กลมกล่อม

fish_ปลาคัง 3 รส (1) DSCF2790

3. Salad: “ปลาคังทอด 3 รสกับสปาเก็ตตี้ซอสกระเพรา” เป็นการนำเอาการปรุงรสสไตล์ไทยอย่างซอสใบกระเพราสับละเอียดแบบที่เราคุ้นปากมาทำให้เผ็ดน้อยลง โดยเน้นที่ความกลมกล่อมเป็นหลัก แล้วนำมาผัดกับเส้นหมึกดำที่สุกกำลังดี จัดวางในช้อนเสิร์ฟแบบพอดีคำ ตามด้วยปลาคังสามรสทอดกรอบชิ้นพอเหมาะ เสริมรสด้วยน้ำสลัดฝรั่งเศสที่ออกรสมัน เปรี้ยวหวาน และมีกลิ่นของมะกอกดอง แตงกวาดอง ยิ่งเข้ากันกับรสชาติของสปาเก็ตตี้คลุกกระเพราได้เป็นอย่างลงตัว

Soup_ซุปคอนซูเม่ขาหมู (2) Soup_ต้มข่าไก่อัญชัน (2)

4. Soup: มีให้ทานกันถึง 2 ตัว คือ “ซุปคอนซูเม่ขาหมูพริกขี้หนูสวน” ซุปหัวหอมที่ใส่ขาหมูตุ๋นไปแล้วเคี่ยวจนได้ที่เสริมความเป็นไทยด้วยพริกขี้สวน ทำให้ซุปมีกลิ่นหอมและรสเผ็ดเล็กๆ “ต้มข่าไก่อัญชัน” กับความพิเศษของน้ำกะทิที่เคี่ยวกับสมุนไพรและดอกอัญชันจนได้น้ำซุปสีม่วงอ่อน เนื้อไก่ก็นำไปอบกับสมุนไพรไทยประมาณ 20 นาที เพื่อให้ได้รสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอมของสมุนไพรในซุปแบบไทยๆ

fish_หมกปลาหิมะ (1)

5. Fish Dishes: “หมกปลาหิมะพริกแห้งเบคอนเสิร์ฟซอสฮันนีดิวมัสตาร์ดเสิร์ฟคู่ข้าวไรซ์เบอร์รี” ซึ่งใช้ปลาน้ำลึกเป็นวัตถุดิบหลัก โดยเลือกปลาหิมะจากไอร์แลนด์ซึ่งมีไขมันแทรกให้ความนุ่มกำลังดี ทำรสชาติออกมาให้มีความเป็นไทยมากขึ้น โดยเน้นที่การใช้เครื่องเทศแบบอีสาน พริกแห้ง ผสมกับเบคอนสับเป็นชิ้นเล็กๆ นำมาห่อใบตอง เอาไปอบ 12 นาที ออกมาเนื้อนุ่มกำลังดี เสิร์ฟพร้อมข้าวไรซ์เบอร์รี เสริมรสด้วยซอสฮันนีดิวมัสตาร์ด รสหวานมีกลิ่นน้ำผึ้งเล็กน้อยตัดด้วยกลิ่นผักชีลาวเพื่อเข้ามาผสมผสานกับความจัดจ้านของพริกแห้ง

DSCF2772

6. Meat Dishes: “หมูคุโรบุตะหมักแจ่วย่างกับซอสมะม่วง” โดยใช้หมูคุโรบุตะสันในนำไปซูวี ทำให้เนื้อหมูสุกระดับที่พอดี แล้วนำไปหมักแจ่วที่ผสมหอมแดง เนื้อพริก ก่อนนำไปย่าง แต่ยังคงความนุ่มละมุนและรสชาติเผ็ดแบบไทยๆ แต่นำมาลดทอนความเผ็ดลงด้วยการเพิ่มรสชาติจานนี้ด้วยมะม่วงเขียวเสวยที่ผ่านการซูวีให้นุ่มแล้วนำมารองด้านล่าง ดับความเผ็ดอีกชั้นด้วยการกินคู่กับซอสมะม่วงน้ำดอกไม้ที่นำไปเคี่ยวกับเหล้ารัม ได้รสออกเปรี้ยวหวาน ลงตัวอย่างดีกับรสเขียวเสวยมันหนึบหนับ

DSCF2795 DSCF2784

7. Main Dishes: “สะโพกไก่อบขมิ้นพริกไทยดำ”เป็นการนำเอาสะโพกไก่เนื้อนุ่มมาปรุงรสกับซอสสูตรพิเศษที่มีส่วนผสมของมะเขือเทศ โทบัสโกรสเผ็ด ตัดด้วยน้ำเชื่อม ผสมความเป็นไทยอย่างรสของพริกแห้ง กระเทียม และพริกไทยดำตัวชูโรง พิเศษกว่านั้นคือ เสริมด้วยเงาะที่นำไปซูวีให้นุ่มเพิ่มรสชาติหวานธรรมชาติและกลิ่นของผลไม้เข้าไปมีส่วนร่วมในจานนี้ ทำให้รสชาติลงตัวระหว่างพริกไทยดำและความหวานของซอส เสิร์ฟแบบพอดีคำโดยจัดวางในแป้งทาร์ตบางกรอบ

DSCF2765 DSCF2796

8. Dessert: “พานาคอตต้าข้าวเหนียวมะม่วง” พานาคอตต้า (Panna Cotta) เป็นขนมหวานชนิดหนึ่งของอิตาลี มีลักษณะคล้ายกับเยลลีรสนม มีความนุ่มและมีรสหวานกำลังดี ยิ่งมาผสมผสานกับความเป็นของหวานขึ้นชื่อของบ้านเราอย่าง ข้าวเหนียวมะม่วง ก็ยิ่งหอมมันอร่อย ความพิเศษของเมนูนี้คือความสมดุลระหว่างนมสดกับมะม่วงที่นำมาทำเป็นพานาคอตตารสชาติเฉพาะตัวละมุนลิ้น ยิ่งได้กินคู่ข้าวเหนียวมูลนึ่งใบเตย หอมกะทิที่ราดอยู่ด้านบน รับรองเลยว่าเมนูนี้ฟินหนักมาก

DSCF2821

นอกจากได้อิ่มอร่อยเมนูอาหารแล้วก็ยังได้ดื่มด่ำกับวิว เมืองนครปฐมยามค่ำคืนแบบ 360 องศา บน Sky Bar ของโรงแรม ไมด้า ทวารวดี แกรนด์ นครปฐม ที่ช่วยสร้างความพิเศษให้กับงานอีกด้วย…. อาหารพร้อม เครื่องดื่มพร้อม แล้วคุณล่ะพร้อมหรือยัง! ใครยังไม่มีบัตรเข้าไปซื้อกันได้ที่ craftnroll หรือ โทร. 089-811-1901 แล้ว 5 มีนาคมนี้มาเจอกัน

Categories: