First Impression
ULTRA ADEPT เป็นร้านกาแฟที่ออกแบบได้โปร่งโล่งสบายออกเป็นสไตล์ลอฟต์กึ่งอินดรัสเตรียล โดดเด่นด้วยการจัดทำบาร์ขนาดใหญ่ ซึ่งคุณหมูบอกเราว่าเป็นส่วนที่ทุกคนในร้านให้ความสำคัญที่สุดทีเดียว เนื่องจากบริเวณนี้ต้องตั้งเครื่องชงกาแฟ 2 เครื่องใหญ่ จำนวน 5 หัว และเครื่องบดกาแฟอีก 4 ตัวเพื่อรองรับเมล็ดกาแฟที่แตกต่างกันตามความเหมาะสม
ตั้งใจนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่คอกาแฟ
ผู้ชำนาญด้านกาแฟที่มารวมตัวกัน ต่างก็ผลิตกาแฟแบบ Speciality หรือเป็นกาแฟสูตรพิเศษที่แต่ละคนผลิตขึ้น ทั้งคั่วและเบลนด์ในแบบฉบับของตัวเอง กาแฟของแต่ละร้านอาจค่อนข้างเข้าถึงยากและไม่ได้เน้นว่าต้องโปรโมท แต่เป็นสถานที่สำหรับคนที่ชอบกาแฟชนิดนั้นๆ โดยเฉพาะ แต่การมารวมตัวกันเพื่อสร้าง ULTRA ADEPT ขึ้น เพราะอยากจะทำให้กาแฟ Speciality นี้ สามารถเข้าถึงง่ายขึ้น ผ่านลักษณะของคาเฟ่เต็มรูปแบบ “เราอยากทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่เป็นพนักงานออฟฟิศ สามารถเข้าใจกาแฟได้มากขึ้น และต้องการสร้างกลุ่มผู้บริโภคที่เป็น Speciality ให้มากขึ้น เขาอาจจะถูกใจก็ได้ แค่ยังไม่เคยลองมัน หรืออาจจะไม่เคยชอบกาแฟแบบนี้เลย แต่หากได้ลองสักครั้งหนึ่ง ไม่แน่ว่าทัศนคติอาจจะเปลี่ยนไป” คุณหมูกล่าว
กาแฟ 1 แก้วของ ULTRA ADEPT
กว่าจะมาเป็นกาแฟ 1 แก้วของร้าน ULTRA ADEPT ขอบอกว่าไม่ธรรมดา เพราะนอกจากเขาจะใส่ใจตั้งแต่การสรรหาเมล็ดกาแฟจากแหล่งผลิตด้วยตัวเองแล้ว กระบวนการคั่วต่างๆ ก็ผ่านการคิดโปรไฟล์เอง คั่วเองจนได้เป็นรสชาติกาแฟที่แตกต่างไปจากที่อื่นๆ และเขายังให้ความสำคัญกับน้ำที่ใช้ในการชงกาแฟด้วย
คุณหมูเล่าให้เราฟังว่าน้ำส่งผลอย่างมากต่อรสชาติกาแฟ น้ำที่ดีสำหรับการนำมาชงกาแฟนั้นต้องมีส่วนผสมของแร่ธาตุแมกนีเซียม เพราะการมีแร่ธาตุตัวนี้ทำให้สามารถสกัดกาแฟมารวมกับน้ำได้ดีกว่าการใช้น้ำธรรมดาทั่วไป ดังนั้น ULTRA ADEPT จึงต้องใช้เครื่องกรองน้ำที่ดึงเอาแร่ธาตุทั้งหมดในน้ำออกมาจนน้ำสะอาดไม่เหลือแร่ธาตุอะไรอยู่เลย แล้วจึงใส่แร่ธาตุแมกนีเซียมเข้าไปทีหลัง
คุณหมูอธิบายเพิ่มเติมว่า “ตามหลักวิทยาศาสตร์ เรามีน้ำเป็นตัวทำละลาย ตัวทำละลายจะสกัดอะไรก็ตามได้มากขึ้นเมื่อมันมีอุณหภูมิสูง และถ้ากาแฟเป็นประจุลบ เราก็ต้องการประจุบวกเพื่อดึงประจุลบออกมา ดังนั้นถ้าน้ำมีแมกนีเซียมซึ่งเป็นประจุบวกเยอะ มันก็จะทำหน้าที่ดึงกาแฟหรือประจุลบออกมาได้มากกว่าน้ำทั่วไป รสชาติกาแฟจึงเพิ่มมากขึ้น และแร่ธาตุอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นในการทำกาแฟ นอกจากจะทำให้กาแฟเสียรสชาติแล้ว การที่อยู่ในเครื่องชงกาแฟที่มีอุณหภูมิสูงตลอดเวลาจะทำให้มีปัญหาเรื่องตะกรันด้วย”
Special Coffee Bean @ ULTRA ADEPT
ความพิเศษของเมล็ดกาแฟที่นี่ นอกจากจะใช้กาแฟ Single Origin (คือเมล็ดกาแฟแบบเดียวกันจากประเทศหรือแหล่งผลิตแห่งเดียวกัน โดยไม่มีกาแฟชนิดอื่นเจือปน มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่น) ของแต่ละโรงคั่วที่เป็นพันธมิตรร่วมกันแล้ว ยังเบลนด์เมล็ดกาแฟแบบพิเศษสำหรับร้าน ULTRA ADEPT โดยเฉพาะ เมล็ดกาแฟของที่นี่จะเป็นกาแฟที่คั่วไม่เข้มมาก ซึ่งมี 3 ตัวด้วยกัน ได้แก่
– แบล็คสมิธ (BLACK SMITH) เป็นการเบลนด์กาแฟลาวจากโบโลเวน (Laos Boloven)กับเมล็ดกาแฟจากบลาซิล (Brazil Santa Ines) โดยคั่วแบบ มีเดียมดาร์ก (Medium Dark) ตัวนี้จะคั่วเข้มสุดในบรรดาสามตัว แต่ยังอยู่ในระดับปานกลาง
– อัลตร้า (ULTRA) เป็นการเบลนด์ระหว่างเมล็ดกาแฟไทย บราซิลและเอธิโอปีย เป็นการคั่วแบบมีเดียม (Medium)
– อะเด็ป (ADEPT) ตัวนี้คั่วแบบมิเดียมไลท์(Medium Light) อยู่ในระดับอ่อนสุดของ 3 ชนิด และเป็นซีซันนอลเบลนด์ (Seasonal Blend) คือเป็นตัวเดียวที่จะเปลี่ยนเมล็ดไปตามฤดูกาล สำหรับช่วงนี้จะเบลนด์โดยใช้เอธิโอเปียสองตัว คือเอธิโอเปียโคเชเบลนด์ (Ethiopia Kochere)กับเอธิโอเปียอาราโม (Ethiopia Aramo) คุณหมูเสริมว่า “ตัวโคเชเป็นเป็นกาแฟที่ผลิตแบบวอชโปรเซส(Wash Process) ส่วนอาราโมใช้วิธีแบบเนเชอรอลโปรเซส (Natural process) ซึ่งเราใช้กาแฟจากแหล่งเดียวกันคือเอธิโอเปีย แต่นำเมล็ดที่ผ่านวิธีการผลิตต่างกัน มาเบลนด์รวมกัน”
Don’t Miss: นอกเหนือจากเมล็ดกาแฟแบบพิเศษแล้ว ใครที่อยากจะสั่งเมนูเครื่องดื่ม Craft ‘N Roll ขอแนะนำสองเมนูนี้ว่าไม่ควรพลาด
คาปูชิโน่เย็น (ICE Cappuccino)
คาปูชิโนเย็น ที่เราคุ้นเคย แต่เมื่อได้ลิ้มลองแล้วต้องบอกว่าอร่อยแบบมีสไตล์เฉพาะตัว ด้วยรสชาติและความหอมของกาแฟที่เด่นชัด ผสมผสานเข้ากับนมพรีเมียมรสเข้มข้น นำมาปั่นจนละเอียดเนียนเป็นเนื้อครีม ให้ความกลมกล่อม ละมุนและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และเชื่อไหมว่าแม้จะทิ้งเวลาไว้นานจนน้ำแข็งเริ่มละลายแต่รสชาติกาแฟก็ไม่ดรอปไปแม้แต่น้อย
ADEPT by Syphon
กาแฟร้อนแก้วพิเศษ ที่นำเอาเมล็ดกาแฟอะเด็ป ซึ่งเบลนด์เมล็ดกาแฟเอธิโอเปียสองตัวเข้าด้วยกัน มาชงด้วยเครื่องไซฟอน อันเป็นวิธีการชงที่สามารถดึงเอาส่วนที่ดีของกาแฟคั่วอ่อนออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ จึงเหมาะกับอะเด็ปที่คั่วค่อนข้างอ่อน ให้รสชาติที่ละเมียดละไม ไม่ขม ออกรสเปรี้ยวนิดๆ บอดี้ค่อนข้างเบา คาแรคเตอร์ของกาแฟตัวนี้ ให้กลิ่น ลิ้นจี่ เบอร์รี่ เบอร์กามอตและชาดำ เป็นรสชาติที่ดื่มง่าย และมีความขมปลายลิ้นเล็กน้อย ปิดลงคอด้วยความสดชื่น
นอกเหนือจากเมนูกาแฟแล้ว ภายในร้านยังมีเมนูชาให้เลือกชิม รวมถึงจะเปิดให้บริการอาหาร ขนมแบบโฮมเมด เต็มรูปแบบเร็วๆ นี้ด้วย ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.
Contact ULTRA ADEPT : Coffee Roasters co-operative
ถนนราษฎร์บูรณะ ซอยราษฎร์บูรณะ 30 เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ 10140
Facebook: Ultra Adept
Photo Credit: Chiraphat Semachai
ความรักในกาแฟคือจุดรวมตัวที่ทำให้เกิดเป็นดรีมทีม ULTRA ADEPT : Coffee Roasters co-operative ซึ่งทีมงานนี้แต่ละคนล้วนผ่านประสบการณ์ด้านการผลิตกาแฟมาอย่างโชกโชน ทั้งคั่วเอง เบลนด์เองและเปิดร้านกาแฟมาแล้ว จนถึงจุดหนึ่งจึงได้มารวมตัวกันเพื่อทำธุรกิจที่ขยายใหญ่ขึ้นและเข้าถึงคนส่วนใหญ่ได้ง่ายขึ้น
คุณหมู นพพล อมรพัชญ์ปรัชญา เจ้าของร้าน Bottomless และเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งร้านนี้ เป็นตัวแทนมาเล่าให้เราฟังถึงจุดเริ่มต้นของร้านไปจนถึงความละเอียดละไมทุกขั้นตอนในการชงกาแฟแต่ละแก้ว
คุณหมูบอกว่า ULTRA ADEPT เกิดจากการรวมตัวของหุ้นส่วน 9 คน ซึ่งมีทั้งคนที่ทำโรงคั่วเป็นหลักและควบตำแหน่งร้านกาแฟ ได้แก่ Bottomless, Rosetta, Phil Coffee Company และ Duck You มาผนึกกำลังกับเจ้าของร้านกาแฟอีก 4 แห่ง ที่คอกาแฟทั้งหลายน่าจะคุ้นเคยอย่าง Mitte, Awake Awhile, Espressofriend khonkaen และ Diva-Licious Coffee Cafe มารวมตัวกันเป็น ULTRA ADEPT ที่จะมานำเสนอรสชาติของกาแฟในแบบฉบับของพวกเขาที่ต่างจากความคุ้นเคยของคนส่วนใหญ่