รีวิว Black Beer’d ร้าน คราฟท์เบียร์ ที่อาจทำให้คุณลืมเบียร์แบบเดิมๆ

Black Beer’d เพิ่งเปิดไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาในโลชั่นกลางเมืองย่านทองหล่อในโครงการ 9.53 Art mall ในชื่อ Black Beer’d ที่นำเสนอเบียร์เฉพาะทาง ไม่ใช่เบียร์ตลาดแบบที่เรารู้จัก แต่เป็น คราฟท์เบียร์ แบบที่อาจจะมีคนรู้จักเฉพาะกลุ่มที่ตามเบียร์ตัวนั้นๆ มาชิมที่รา้นแห่งนี้

บรรยากาศในร้านตกแต่งไปทางสไตล์ดิบๆ ตรงไปตรงมา เน้นงานไม้ที่ทำขึ้นเอง กระดานดำพร้อมคำคมเท่ๆ หยอดมุขตลกที่เกี่ยวกับเบียร์เข้าไปในบรรยากาศที่เป็นกันเอง จากความชอบคราฟท์เบียร์ของคุณเทนน์และหุ้นส่วนประกอบกับการได้มีโอกาสเดินทางไปชิมคราฟท์เบียร์มาแล้วหลายประเทศ ทั้งจากทางฝั่งยุโรปไปจนถึงเอเชียอย่างญี่ปุ่นและเกาหลี จึงอยากให้บ้านเรามีร้านคราฟท์เบียร์แบบนี้บ้าง ร้านเบียร์ที่ให้ความรู้เรื่องวัฒนธรรมการกินเบียร์ที่ถูกต้องแก่คนไทย

Educated Craft Beer Culture
“เราอยากให้ Black Beer’d เป็นที่ให้ความรู้เรื่องคราฟท์เบียร์ เปิดโลกเรื่องเบียร์คราฟท์ ถ้าเปิดใจแล้วเข้ามากินเบียร์ร้านเรา ผมมั่นใจว่าจากร้อยคนจะต้องมีสักยี่สิบคนที่อยากจะศึกษาต่อว่าเบียร์แบบนี้มีอย่างนี้ด้วยเหรอวะ”

“เจ้าแรกที่เป็น Craft Beer Bar รูปแบบ Self Service ในบ้านเราคือ mikkeller และประสบปัญหาเหมือนกับเราคือการเป็นเซลฟ์เซอร์วิสหรือการให้ลูกค้าบริการตัวเองซึ่งคนไทยยังไม่ค่อยเข้าใจ ถ้าไปต่างประเทศทุกคนจะรู้กันดีว่า ต้องเดินไปสั่ง คุยกับบาร์ ร้านนี้พยายามให้เกิดการคุยกันระหว่างลูกค้ากับบาร์ ลูกค้าจะได้เข้าถึงง่าย วัฒนธรรมของคราฟท์เบียร์จริงๆ บางร้านนี่เขาจะเขียนไว้เลยว่าไม่มีไวไฟ วางโทรศัพท์แล้วคุยกับคนข้างๆ ซะ ส่วนใหญ่ร้านที่ต่างประเทศเขาจะเป็นแบบนี้” คุณเทนน์กล่าว

ในร้านจะเวียนเบียร์แต่ละตัวไปเรื่อยๆ แต่ละวันจะมีเบียร์ 9 ตัวที่คุณเท็นบอกเราว่าพยายามนำเบียร์มาให้หลากหลายครบทุกประเภท หมดถังก็จะมีเบียร์ใหม่มาให้ลอง สลับไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นมาแต่ละครั้งอาจไม่ได้กินเบียร์ตัวเดิมซ้ำอีกแล้ว คุณเทนน์เล่าว่า “ถ้าปีนี้มีเบียร์เอ แล้วปีหน้าบริษัทเดิมผลิตเบียร์เออีก รสชาติไม่เหมือนกันนะ อุณหภูมิต่างกัน รสชาติก็ต่างกัน ตัวแปรการทำเบียร์ค่อนข้างเยอะและควบคุมยากมาก แค่ฝนตกตอนต้ม รสชาติเบียร์ก็แตกต่างกันแล้ว”

“เดี๋ยวนี้ตลาดเบียร์ในบ้านเราเติบโตไปเยอะมาก เรียกว่ามหานครได้เลยนะ เวลาผมเลือกนำเข้าเบียร์ ทุกวันนี้ทุกครั้งที่ไปต่างประเทศต้องดูเลยว่า บ้านเรามีหรือเปล่า ถ้าไม่แปลกจริงๆ ก็จะไม่ไปยุ่งกับมัน “ คุณเทนน์กล่าว

Food pairing by Black Beer’d
ส่วนอาหารของ Black Beer’d ในช่วงแรกเป็นแนวฟิงเกอร์ฟู้ด เพราะเน้นขายเบียร์เป็นหลัก แต่ด้วยรสนิยมคนไทยที่ชอบกินข้าวแล้วกินเบียร์ไปด้วย ซึ่งต่างจากชาวต่างประเทศที่เขาจะกินข้าวเสร็จถึงจะไปกินเบียร์ จึงเพิ่มเมนูอาหารจานอื่นๆ ที่รสชาติเข้ากันได้ดีกับเบียร์เพิ่มมาเข้าด้วย อย่างสเต็ก เบอร์เกอร์ แซลมอนแซ่บจานเด็ดที่ทางร้านแนะนำว่ามาแล้วต้องลอง และยังมีเฟรนช์ฟรายส์หลายรูปแบบ ไปจนถึงของหวานอย่างบราวนี่ มิลค์เชค ที่ทั้งหมดสามารถนำมาจับคู่กินกับเบียร์ในร้านได้แบบฟินๆ ถ้าจะเกริ่นขนาดนี้มาลองชิมเบียร์คู่กับอาหารสไตล์ไทยกันหน่อยดีกว่า คุณเทนน์จับคู่ให้เราสามตัวด้วยกัน

1. Deschutes Fresh Squeezed IPA แอลกอฮลล์ 6.4 % ความพิเศษของเจ้าตัวนี้อยู่ที่การใส่น้ำมันดอกฮ็อปเข้าไปร่วมด้วยทำให้ส่งกลิ่นหอมหวานเหมือนผลไม้ คล้ายลิ้นจี่จนคิดว่าเอ๊ะจะมีรสเปรี๊ยวไหม กลิ่นหอมที่ว่านี้คุณเทน์น์บอกว่าเป็นกลิ่นดอกฮ็อปนี่ละ และที่มันหอมฟุ้งขนาดนี้เพราะแก้วนี้ไม่ได้ใส่แค่ดอกฮ็อปธรรมดายังเพิ่มน้ำมันดอกฮ็อปเข้าไปด้วย จานนี้เข้ากับอาหารเผ็ดเพราะว่ารสออกขม จึงช่วยดับเผ็ดได้ และทำให้เบียร์กินง่ายขึ้น IPA เหมาะกับอาหารไทยมากๆ กินแล้วก็จะไปด้วยกันได้ดีมาก ยิ่งได้เจอกับเจ้าแซลมอนแซบ ยอดนิยมของร้านขอบอกเลยว่าสมคำร่ำลือจริงๆ

2. Schneider Weisse Tap 5 แอลกอฮอล์ 8.2 % ตัวนี้เป็น Weizen Bock เบียร์โลกเก่าของเยอรมัน สีออกส้มขุ่น เหมาะกับเบอร์เกอร์ อาหารที่มีไขมันเยอะๆ เพราะตัวนี้มีแอลกอฮอล์ค่อนข้างสูง แล้วก็มีบอดี้ของเบียร์ออกไปทางมีเดียมทูฟูล มันก็จะเข้ากัน พอได้ลองชิมเบียร์ตัวนี้บอกเลยว่ามันช่วยล้างความมันของเบอร์เกอร์ออกไป ทำให้ไม่เลี่ยน กินได้เรื่อยๆ รสไม่ขม

3. EPIC Exponential Series Imperial Stout แอลกอฮอล์ 11.1 % เบียร์สีดำสนิทตัวนี้ ใส่ดาร์กช็อกโกแลตกับกาแฟ เป็นเบียร์ลูกครึ่ง คุณเทนน์บอกว่ามันมีความซ่าแบบเบียร์ฝั่งยุโรปร่วมด้วย “ปกติแล้ว Imperial Stout มีแอลกอฮอล์สูงขนาดนี้ จะไม่ซ่าเท่านี้ แต่ตัวนี้จะกินง่ายไม่ซับซ้อนจนเกินไป กลิ่นดาร์กช็อกโกแลตค่อนข้างชัด กินกับบราวนี่จะชัดขึ้นไปอีก ยิ่งอุณหภูมิสูงขึ้นกลิ่นของมอลต์จะค่อยๆคลายออกมา”

สำหรับตัวนี้เรานี่ละแนะนำว่าต้องลอง เพราะมันฟินเกินจะหยุดจริงๆ กลิ่นหอมของเบียร์ เน้นย้ำว่าหอมช็อกโกแลตมากกลบกลิ่นแอลกอฮอล์ซะเรียบแถมรสชาติยังเข้ากันดีเวอร์กับไอศกรีมวนิลลา บราวนี่และวิปครีม ลืมไปเลยว่ากินเบียร์นึกว่ากินขนมชิลล์ๆ กินคู่นี้จงระวังเมาไม่รู้ตัวนะสาวๆ “คนไทยไม่ค่อยรู้ว่าของหวานสามารถกินกับเบียร์ได้ และมีความเชื่อว่ากินของหวานกับเบียร์จะเมา ถามว่ามันเมาไหม ก็เมานั่นละ ปกติ Imperial Stout ทั่วไปจะมีบอดี้ฟูล แต่บอดี้ตัวนี้เบากว่าเป็นมีเดียมทูฟูล ดื่มง่ายกว่า เมาง่ายกว่าด้วย(หัวเราะ) จะกินง่าย อร่อยมาก แล้วเมื่อกินกับบราวนี่ที่มีดาร์กช็อกโกแลต มันจะช่วยส่งเสริมรสช็อกโกแลตขึ้นมา กลิ่นมอลต์ของ Imperial Stout ตัวนี้ก็จะชัดไปอีกเมื่ออุณหภูมิมันสูงขึ้น” คุณเทนน์กล่าว

คุณเทนน์เล่าว่าฟู้ดแพร์ริ่ง(food pairing)กับเบียร์เป็นเทรนด์ที่กำลังมาในไทย เป็นการเอาศิลปะของศาสตร์อาหารและศาสตร์ของเบียร์มารวมกันเพื่อช่วยส่งเสริมรสชาติของอาหารให้อร่อยขึ้น ที่เดนมาร์ก mikkeller and friends มีฟู้ดแพร์ริ่งคอรส์ แอพเปอร์ไทเซอร์มาก่อนหน้าเรานานแล้ว คุณเทนน์บอกเราอีกว่า รสชาติบางอย่างในอาหารหรือของหวานจะเสริมรสชาติที่มีในเบียร์ให้เด่นขึ้น หรือบางตัวกินคู่กันก็จะเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้นได้

ทั้งหมดนี้คือฟู้ดแพร์ริ่งที่ทางร้าน Black Beer’d จับคู่ออกมาได้อย่างลงตัวในแบบที่คนไทยน่าจะหลงรักแบบโงหัวไม่ขึ้นแน่ๆ ถ้าไม่จิบเบียร์เพลินจนเมาไปซะก่อน

Contact: Black Beer’d ยังมีพี่น้องในตระกูลเดียวกันนามว่า White Beer’d ร้านเบียร์อีกสไตล์ที่มีเบียร์ที่คนทั่วไปรู้จักดีอยู่ที่ CDC ด้วย ส่วน Black Beer’d ตั้งอยู่ที่ชั้นล่างสุดของโครงการ 9.53 Art mall ซอยทองหล่อ 9 เปิดทุกวัน 17.00-01.00 น.        Facebook : BlackBeerd

Categories: